สัญญามีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

0

สัญญามีหลายประเภทตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของสัญญานั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว สัญญาจะมีลักษณะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ

  1. สัญญาที่ทำขึ้นตามกฎหมาย (Contracts under Seal / Formal Contracts) เป็นสัญญาที่มีการลงลายมือชื่อหรือตราประทับของเจ้าของสัญญาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสัญญาประเภทนี้มักจะเป็นที่ทำในรูปแบบเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมาย ตัวอย่างของสัญญาที่เป็นต้นฉบับคือ สัญญาซื้อขายบ้าน, สัญญาเช่า, สัญญาเงินกู้, สัญญาจ้างงาน เป็นต้น
  2. สัญญาที่ไม่มีการลงลายมือชื่อ (Simple Contracts / Informal Contracts) เป็นสัญญาที่ไม่ได้รับการตราประทับหรือลงลายมือชื่อ เช่น สัญญาซื้อขายที่ไม่เกินจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนด, สัญญายืมยืมเงินแบบไม่มีรับรองให้กับคู่สัญญา, สัญญาซื้อขายที่ไม่ได้ตราประทับ เป็นต้น สัญญาประเภทนี้มักถูกพิพากษาในศาลเท่านั้น หากมีข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น
สัญญามีกี่ประเภท อะไรบ้าง
สัญญามีกี่ประเภท อะไรบ้าง

นอกจากนี้ยังมีสัญญาประเภทอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในสายอาชีพและกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ โดยตัวอย่างสัญญาประเภทนี้ได้แก่

  • สัญญาค้าขาย (Sales Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างฝ่ายซื้อและฝ่ายขาย
  • สัญญาความลับ (Non-Disclosure Agreement / NDA) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
  • สัญญาเช่า (Lease Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น บ้าน คอนโด ห้องพัก ร้านค้า เป็นต้น
  • สัญญาจ้าง (Employment Contract) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขการจ้างงานและการทำงานระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง
  • สัญญากู้ยืมเงิน (Loan Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการยืมเงินและการคืบควบคืบครื้นเงินระหว่างฝ่ายให้ยืมและฝ่ายขอยืม
  • สัญญาร่วมทุน (Partnership Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการร่วมลงทุนและดำเนินกิจกรรมร่วมกันระหว่างพาณิชย์ หรือนักธุรกิจ
  • สัญญาแต่งงาน (Marriage Contract) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขและสิทธิ์หน้าที่ในการแต่งงานระหว่างคู่สมรส

สัญญาที่อธิบายในตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเบื้องต้นและมีหลากหลายรูปแบบและลักษณะต่อจากนั้น นอกจากสัญญาที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีสัญญาอื่น ๆ ที่สำคัญที่น่าต้องรู้เพิ่มเติมดังนี้

  • สัญญาซื้อขายหุ้น (Stock Purchase Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อขายหุ้นของบริษัท ซึ่งอาจเป็นการซื้อขายหุ้นระหว่างนักลงทุนหรือบริษัท
  • สัญญาสําหรับลิขสิทธิ์ (Copyright Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ในการใช้งาน ควบคู่กับการถือครองลิขสิทธิ์ของผลงานทางวรรณกรรม ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ
  • สัญญาขายส่วนแบ่ง (Franchise Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ในการใช้ชื่อเครื่องหมายการค้าและระบบธุรกิจของบริษัทให้กับผู้ประกอบการอิสระ
  • สัญญาเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน (Mortgage Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้เงินกู้เพื่อซื้อทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน โดยมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน
  • สัญญาเช่าซื้อ (Lease Purchase Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการเช่าทรัพย์สินในช่วงระยะเวลาที่กำหนด และมีตัวเลือกให้ผู้เช่าสามารถซื้อทรัพย์สินในภายหลังได้
  • สัญญาบริการ (Service Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้บริการหรือการทำงานให้กับลูกค้า โดยระบุขอบเขตของงาน รายละเอียดบริการ และการชำระค่าบริการ
  • สัญญาลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (Software License Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ในการใช้งานซอฟต์แวร์ และรายละเอียดการให้บริการ ซึ่งอาจมีสัญญาอยู่ในรูปแบบใบอนุญาตหรือสัญญาการใช้งาน
  • สัญญาสําหรับสินทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Property Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ สิทธิ์ในการค้าเครื่องหมายการค้า เป็นต้น
  • สัญญาแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

สัญญาในแต่ละประเภทนี้อาจมีข้อความและเงื่อนไขที่ซับซ้อน การเข้าใจและการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนในสัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อป้องกันข้อขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจในภายหลัง

เมื่อพูดถึงสัญญาและเอกสารทางกฎหมาย ยังมีสัญญาอื่น ๆ ที่สำคัญและควรทราบดังนี้

  • สัญญาซื้อขายที่ดิน (Real Estate Purchase Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการซื้อหรือขายที่ดิน บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดในการโอนสิทธิ์ทรัพย์สิน
  • สัญญาหมุนเวียนสินค้า (Revolving Credit Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้เครดิตหมุนเวียนให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถขอกู้เงินในวงเงินที่กำหนดไว้ได้หลายครั้งตามความต้องการ
  • สัญญาบริการการสอบทานสินค้า (Inspection and Acceptance Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการตรวจสอบและยอมรับสินค้าหรืองานบริการตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้
  • สัญญาห้องเช่า (Lease Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการให้เช่าที่พักอาศัยหรือสำหรับธุรกิจ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขในการชำระค่าเช่าและข้อกำหนดการใช้ทรัพย์สิน
  • สัญญาเปิดเผยข้อมูล (Non-Disclosure Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการเปิดเผยและรักษาความลับของข้อมูลที่เป็นความลับระหว่างกลุ่มหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
  • สัญญาการส่งมอบสินค้า (Delivery Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการส่งมอบสินค้าหรือวัตถุดิบตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้
  • สัญญาพันธมิตรธุรกิจ (Joint Venture Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการก่อตั้งธุรกิจร่วมกันระหว่างกลุ่มหรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง และกำหนดสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายในธุรกิจนั้น
  • สัญญาห้ามค้าชิ้นส่วน (Non-Compete Agreement) สัญญาที่กำหนดเงื่อนไขในการห้ามผู้ที่ออกจากองค์กรไม่ให้มีการแข่งขันในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงธุรกิจหลังออกจากองค์กร

เป็นอย่างแรกที่นำเสนอ สัญญาอาจยังมีอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับลักษณะและความซับซ้อนของกิจกรรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน การมีความเข้าใจและรับรู้ถึงสัญญาและเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญที่อย่างยิ่งในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้องและประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณ